มาออกกำลังกายตามรูปร่างกันดีกว่า:สาวหุ่นกระบอก


               Madame N กลับมาแล้วค่า กลับมาพร้อมกับเคล็ดลับการออกกำลังกายสำหรับสาวๆ แต่ละรูปร่างค่ะ ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคืออะไรคะสาวๆ แม่นแล้วค่ามาส่องกระจกเช็ครูปร่างกันก่อนนะคะว่าสาวๆแต่คนมีรูปร่างแบบไหน

             
 รูปร่างแบบที่หนึ่ง สาวทรงกระบอก สำหรับสาวๆทรงนี้ส่วนเว้าส่วนโค้งคืออะไรไม่รู้จัก เพราะหุ่นแต่ละนางจะตร้งตรง






รูปร่างแบบที่สอง สาวทรงแอ๊ปเปิ้ล สาวๆทรงนี้ช่วงบนบึ้บบั๊บ ขัดกับช่วงล่างที่เพรียวบาง




  รูปร่างแบบที่สาม สาวทรงลูกแพร สาวๆกลุ่มนี้ เรียกให้สวยหรูก็คือกลุ่มสาวๆที่มีฐานมั่นคงแข็งแรงค่า แต่ถ้าพูดตรงๆก็คือกลุ่มสาวๆที่สะโพกกับขาแข่งกันใหญ่นั่นเองค่ะ





รูปร่างแบบที่สี่ สาวทรงนาฬิกาทราย สาวๆกลุ่มนี้คำว่าตรงๆไม่รู้จักค่า เพราะหุ่นของนางเต็มไปด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าให้สาวๆกลุ่มอื่นอิจฉา




               รูปร่างแบบที่ห้า (อันนี้แอบแถมค่า) สาวๆในกลุ่มหุ่นผอมกร้องแกร่งหรือหุ่นนางแบบค่า  สาวๆกลุ่มนี้ไม่รู้ว่าอ้วนคืออะไรเพราะแต่ละนางกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน (ชิ หมั่นไส้มาก Madame N อิจฉาค่า)

                เอาล่ะค่ะพอเรารู้จักรูปร่างตัวเองก็ไม่ยากแล้วค่ะที่จะจัดการพิชิตส่วนเกินขับไล่ความไม่ฟิตแอนด์ไม่เฟิร์มจากร่างกายของเราค่ะ Madame N ขอเริ่มจากสาวๆทรงกระบอกก่อนนะคะ




               ว่ากันว่าหุ่นทรงกระบอกแบบนี้เป็นหุ่นส่วนใหญ่ของสาวๆโซนเอเชียเลยนะคะ สาวๆกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาอ้วนเฉพาะจุดเวลาน้ำหนักขึ้นแต่อย่างใด เพราะพวกนางจะอ้วนทุกจุดโดยเท่าเทียมกันค่า ส่วนเวลาน้ำหนักลดก็หดหายไปทุกส่วนเช่นกันค่ะ

                และเนื่องจากสาวๆในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีอัตราการเผาผลาญต่ำ ดังนั้นหากคุณไม่อยากมีระบบเมทาบอลิซึ้มต่ำเตี้ยเรี่ยดินไปทั้งวันแล้วละก็ ห้ามงดอาหารเช้าโดยเด็ดขาดค่า(จริงๆไม่ว่าจะเป็นสาวๆกลุ่มไหนก็ไม่ควรงดอาหารเช้าอยู่แล้วนะคะ) เพราะสำหรับสาวๆกลุ่มนี้แล้วช่วงเช้าคือเวลาทองของระบบเผาผลาญของคุณเลยค่ะ

               สาวทรงกระบอกทั้งหลายอย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ ทุกปัญหาของสาวๆแก้ได้ด้วยการออกกำลังกายค่ะ เน้นไปที่การว่ายน้ำ กระโดดเชือก เพิ่มความกระชับของแขนด้วยการเล่นบาร์ หรือจะมา Pole Dance กับ Madame N ก็ได้นิคิ (แอบขายของ อิอิ) ต่อด้วยการเบิร์นแคลอรี่กับการเต้นแอโรบิค แต่หากเบื่อแอโรบิคแบบเดิมๆก็ลองเปลี่ยนมาเป็นซุมบ้าแทนก็ได้นะคะสนุกและได้ประโยชน์เหมือนกัน        

               สรุปแล้วสำหรับสาวๆกลุ่มหุ่นทรงกระบอกต้องออกกำลังแบบองค์รวมค่ะ  คือเท่าเทียมกันทุกส่วน ก็ Madame N บอกแล้วว่าสาวๆกลุ่มนี้เขาเป็นพวกเท่าเทียมกันนี่น่า อิอิ  
   
                แอร๊ยยยยยย ที่หมดแล้วค่า รออาทิตย์หน้า Madame N จะมาต่อในกลุ่มต่อไปนะคะ  

ทำม้ายทำมายถึงต้องวอร์มร่างกายน้านๆกว่าจะได้เรียน Pole Dance



          สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่านหลังจาก Madame N ไปตามไขข้อข้องใจสำหรับคน(อยาก)เรียนโพลไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็มีคนที่เพิ่งเริ่มหรือเคยเรียน Pole Dance อยู่แล้วสอบถามMadame N เข้ามาไม่ขาดสายค่ะ ว่าทำม้ายทำไมถึงต้องวอร์มร่างกายก่อนเรียนนานขนาดนี้ 
 
           เพื่อตอบข้อข้องใจนี้ Madame N จึงไปตามหาคำตอบมาให้ท่านผู้อ่าน หลังจากตามหาอยู่นาน Madame N ก็ได้เจอกับคุณครูใจดีที่จะมาให้คำตอบแก่พวกเราแล้วค่ะ แต้แด่น คุณครูสาวใจดีท่านนี้เธอชื่อว่าครูมาเรียค่า

           คุณครูมาเรียนั้นนอกจากจะสวย ผมชมพูเปรี้ยวแซ่บแล้ว ยังมากความสามารถสุดๆ เธอสอนได้ทั้ง Pole Dance, Striptease แล้วก็ Bellydance ด้วยนะคะ คุณสมบัติครบเครื่องขนาดนี้ต้องตอบคำถามของ Madame N ได้กระจ่างแน่เลยแน่ๆเลยค่า 
 
           Madame N : สวัสดีค่ะครูมาเรียขา ทำม้ายทำไมเราถึงต้องวอร์มนานขนาดนี้ด้วยคะ คือว่า Madame N อยากเต้นเลยไม่ได้หรือคะ

                 คุณครูมาเรีย : “เราไม่ควรเต้นโดยไม่ได้วอร์มนะคะ เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อเจ็บหรือฉีกขาด ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันกว่าจะหาย” 
 
           Madame N : กรี๊ด ฟังมาถึงตรงนี้ Madame N ได้แต่ยกมือทาบอกด้วยความตกใจ แค่ไม่วอร์มร่างกายแค่นี้ ทำไม่ผลมันน่ากลัวขนาดนี้ แต่ยั้งยังค่ะ คุณครูมาเรียยังข่มขวัญ Madame N ต่ออีกนะคะ

                คุณครูมาเรีย : “หรืออย่างร้ายที่สุดคือทำให้เส้นเอ็นมีปัญหาถาวรไม่สามารถรักษาได้”

               Madame N: นาที Madame N ได้อึ้งค่า ครูมาเรียคงเห็นหน้า Madame N ดูสยองขวัญจึงข่มขวัญ เอ้ยอธิบายต่อว่า

               ครูมาเรีย “นี่แหละค่ะเป็นสาเหตุที่เราต้องวอร์มร่างกาย ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง พูดง่ายๆคือร่างกายของคนเราก็เหมือนยางยิ่งอุ่นจะยิ่งยืด จะไม่ขาด แต่ถ้าทำให้ยางปล่อยให้ยางเย็นแล้วยืด ในที่สุดยางมันก็จะขาดค่ะ ยิ่ง Pole Dance เป็นกีฬาที่เราเรียกว่า High Impact ร่างกายเราจะต้องอุ่นเพื่อให้กล้ามเนื้อเราไม่ฉีก”

                ถึงตรงนี้ Madame N ก็กระจ่างแจ้งแล้วค่ะ การวอร์สำคัญอย่างนี้นี่เอง ส่วนใครที่มีคำถามอะไรก็สอบถามเข้ามาได้นะคะ Madame N จะไปหาคำตอบมาให้เองค่า^^


Madame N : พาไขข้อข้องใจว่าด้วยการเรียน Pole




          สวัสดีค่ะ วันนี้ Madame N จะพาทุกท่านมาไขปัญหา ตอบคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการเรียน Pole dance ทั้งหลายนะคะ ส่วนคนที่จะมาไขข้อข้องใจให้เราวันนี้ เป็นคุณครูสอน Pole Dance สุดหล่อประจำ rumPuree แต้แด่น นั่นคือ คุณครูพี่นนท์ค่ะ

          คุณครูพี่นนท์คร่ำหวอดในวงการเต้นมานานนับสิบปี และเริ่มเทรนการเต้นโพลอย่างจริงจังมากว่า 5 ปีแล้ว แหมแต่ Madame N เห็นหน้ากับหุ่นล่ำๆของครูพี่นนท์แล้ว แทบนึกได้แค่คำถามเดียวค่า “คุณครูมีแฟนหรือยังคะ” แอร๊ยย Madame N พูดอะไรออกไปเขิลจังค่า มาเข้าเรื่องกันดีกว่า


Madame N คำถามนี้ก็ถามเป็นคำถามยอดฮิตเลยค่า "เห็นเค้าเต้น Pole Danceแล้วอยากเรียนมากเลยค่า แต่ว่าดูยากมากเลยกลัวทำไม่ได้ค่ะ”

คุณครูพี่นนท์ จริงๆแล้วการเรียนโพลไม่ใช่ว่ามาถึงแล้วตีลังกาผาดโผนบนเสาเลยนะครับ เราต้องมีการสอนพื้นฐานก่อน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเพื่อเป็นการปูพื้นฐานไปสู่ท่ายากขึ้น ดังนั้นไม่กังวลทุกคนเริ่มนับหนึ่งเหมือนกันครับ


Madame N คำถามนี้ก็ถามกันมากค่า “อยากเรียนจังค่ะแต่ น้ำหนักเยอะกลัวปีนเสาไม่ขึ้นค่ะ”

คุณครูพี่นนท์ จริงๆคนตัวใหญ่เต้นได้ อยู่ที่ใจรัก น้ำหนักไม่ใช่ปัญหาอยู่ที่คุณรักการเต้นไหม และคุณรักตัวเองไหม ถ้าคุณรักตัวเองก็ควรหากิจกรรมที่ทำให้ดูดีครับ


Madame N อีกคำถามนะคะพี่นนท์ขา “น้องเป็นคนขี้อายค่า ไม่กล้าเต้นเขิลจังค่ะ”

คุณครูพี่นนท์ อมยิ้มก่อนตอบด้วยเสียงทุ้มนุ่ม “สตูดิโอของเราค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว คือถ้าเป็นลูกค้าใหม่หรือคลาสอะไรก็ตามที่ลูกค้าไม่มั่นใจเราก็จะปิดม่าน ไม่ได้เปิดให้ทุกคนได้เห็น หลังจากนั้นเมื่อเรียนไปเรื่อยๆ ทุกคนก็จะมีความกล้ามากขึ้น  เมื่อเราเต้นร่างกายเราดีขึ้น เรามั่นใจในการเต้นของเราว่าดูสวย พร้อมที่จะโชว์ได้หรือว่าเรามีความพร้อมในหลายๆเรื่อง ต่อไปก็หมดปัญหาเรื่องความอายครับ”

Madame N มีคนฝากถามมานะคะคุณครูพี่นนท์ขาว่า “อายุมากแล้วจะเรียนโพลได้ไหมคะ”

คุณครูพี่นนท์ เราเริ่มเรียนเมื่ออายุเท่าไหร่ก็ได้ครับ  อยู่ที่ว่าเราใจรักและอยากดูแลตัวเองหรือเปล่า   ผมว่าการเต้นมีประโยชน์อีกอย่างคือช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ เท่าที่ผมสังเกตคนที่อยู่ในวงการเต้นหน้าจะดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้เต้นเลยเพราะว่าความเครียดของคนที่ไม่ได้เต้นจะเยอะกว่า  ต่างจากคนที่เต้นเพราะเขาจะได้ผ่อนคลายจากการเต้นและออกกำลังกายครับ


คุณครูนนท์ฝากทิ้งท้ายถึงสาวๆที่ยังกังวลว่า “สำหรับใครที่กลัวว่าเวลาขึ้นเสาแล้วจะตก ไม่ต้องกลัวนะครับ หรือถ้ากลัวจริงๆมาลองเรียนกับผมก่อนก็ได้ผมจะช่วยเชฟให้” แหมๆ เห็นกล้ามคุณครูแล้ว Madame N เชื่อค่ะ ^^


Community Members